โค้ชทีมชาติไทย ใครบ้างที่ประสบความสำเร็จ

โค้ชทีมชาติไทย ใครบ้างที่ประสบความสำเร็จ

วงการฟุตบอลไทยอาจไม่ใช่เรื่องที่ประสบความสำเร็จมากนักในระดับโลก แต่แฟนบอลชาวไทยก็คอยเอาใจช่วยอยู่ตลอดเวลา เพื่อหวังว่าซักวันหนึ่งบอลไทยเราจะได้ไปบอลโลกกันเสียที วันนี้เราจึงอยากพาไปรู้จักกับคนที่ประสบความสำเร็จในการเป็นโค้ชทีมชาติไทย ที่มอบความหวังและพาทีมชาติไทยเข้าใกล้เป้าหมายมากที่สุด

เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง

ไม่มีใครแฟนบอลคนไหนที่จะไม่รู้จักกับ “ซิโก้” ที่เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลไทย และอดีตนักฟุตบอลที่เล่นระหว่าง พ.ศ.2532 และตุลาคม พ.ศ.2550 ในระหว่างช่วงอายุสิบแปดเขาเล่นเป็นกองหน้าและทำประตูได้ 251 ประตูจากการปรากฏตัวลงเล่นทั้งหมด 339 ครั้ง เขาเล่นให้กับ Perlis FA ในมาเลเซียก่อนเข้าร่วมสโมสรอังกฤษ Huddersfield Town ในปี พ.ศ. 2542 ซึ่งผู้จัดการสตีฟ บรูซในตอนนั้นคิดว่าเป็นเพียงประชาสัมพันธ์

หลังจากหนึ่งฤดูกาลผ่านไปซึ่งเขาไม่ได้มีบทบาทสำคัญในทีมจึงออกจากทีมและกลับมาเล่นที่ประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2539 ในขณะที่เล่นให้กับสโมสรกีฬาราชประชา ทำประตูได้ 127 ประตูจาก 71 เกม ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ต่อมาเข้าร่วมทีม Singapore Armed Forces ซึ่งเขายิงได้ 15 ประตูจาก 20 เกม ในเดือนมีนาคมปี พ.ศ. 2545 เขาย้ายอีกครั้งเพื่อไปเล่นให้กับเวียดนามใน Hoàng Anh Gia Lai สุดท้ายเขาได้กลับมาเล่นให้ทีมชาติไทยในศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ จนกระทั่งปี พ.ศ.2557 ได้นั่งแท่นเป็นผู้จัดการทีมชาติไทย

ปีเตอร์ วิธ (Peter Withe)

ปีเตอร์ วิธ เป็นชาวอังกฤษเกิดเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2494 ที่ลิเวอร์พูล เป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษที่เก่งคนหนึ่ง และเล่นเป็นกองหน้าระหว่างปี พ.ศ. 2514 และ พ.ศ. 2533 จุดเด่นของอาชีพของเขาคือการอยู่ใน แอสตันวิลล่า ซึ่งเขาเป็นผู้เล่นคนสำคัญในที่ช่วยคว้าชัยในฟุตบอลลีกปี พ.ศ. 2523 – 2524 ถือเป็นอีกหนึ่งตำนานที่ทำให้ทีมชาติไทยสามารถทัดเทียมกับทีมอื่นๆในต่างประเทศ ปีเตอร์ได้มาเป็นโค้ชให้กับทีมชาติไทยเป็นเวลา 4 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 – 2545

ผลงานของเขาทำให้ทีมชาติไทยสามารถเอาชนะ ไทเกอร์คัพ ได้ 2 ครั้ง และยังเป็นคนที่พาทีมเข้ารอบสุดท้ายในกีฬาอาเซียนเกม น่าเสียดายที่เขาต้องออกจากการเป็นโค้ชเพราะเหตุผลเล็กน้อย เนื่องจากสมาคมต้องการให้เขาใส่ชุดที่ดูเป็นทางการ หรือ “ชุดสูท” แต่อย่างที่ทุกคนรู้ดีว่าในสนามฟุตบอลนั้นมันร้อนจะตาย ใครมันจะบ้าใส่ชุดสูทเดินไปมา สุดท้ายแล้วเขาก็ได้ถูกต่างประเทศชักชวนไปร่วมงาน ปัจจุบันนี้ได้เป็นผู้จัดการทีมให้กับ ปตท.ระยอง


ประวัติความเป็นมาของ อูเล กืนนาร์ ซูลชาร์ ก่อนมาเป็นโค้ช

วันนี้เราจะพาไปดูประวัติความเป็นมาของชายคนหนึ่ง ที่ประสบความสำเร็จในวงการฟุตบอลอย่างมาก “อูเล กืนนาร์ ซูลชาร์” ซึ่งเป็นเรื่องราวชีวิตก่อนที่เขาจะได้มายืนอยู่ตรงนี้ได้ เขาเกิดเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ปี 1973 มีมารดาชื่อ Brita Solskjaer และบิดาชื่อ Oivind Solskjaer มีบ้านเกิดอยู่ที่ประเทศนอร์เวย์ ครอบครัวของครับถือว่ามีฐานะพอสมควร สมาชิกครอบครัวแต่ละคนก็ล้วนแล้วแต่เป็นนักกีฬากันทั้งนั้น ช่วงเวลาส่วนใหญ่ในวัยเด็กมักจะอยู่ในเกาะเล็กๆที่เรียกว่า Kristiansud ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของนอร์เวย์

พ่อของเขาเป็นถึงแชมป์มวยปล้ำ Greco-Roman ของประเทศนอร์เวย์ติดต่อกัน 5 ปีซ้อน ถือว่าเป็นคนที่มีชื่อเสียงมากในยุค 60 โดยเขาคิดว่าจะให้ลูกชายเดินตามเส้นทางความฝันแบบเดียวกับพ่อ แต่กลับกลายเป็นว่ากีฬามวยปล้ำนั้นเป็นอะไรที่ไม่เหมาะกับอูเลเลย เขาใช้เวลากว่า 3 ปี เพื่อที่จะฝึกเล่นมวยปล้ำแต่ก็ยังห่างชั้นกับคำว่าสำเร็จที่ผู้เป็นพ่อได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้

แต่ดูเหมือนว่าอูเลของเรานั้นจะสู้ไม่ถอยเลย ทำให้ผู้เป็นพ่อเกิดสงสารและเกลี่ยกล่อมให้เขาเลิกเล่นมวยปล้ำที่เขารัก แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้เป็นอย่างเดียวที่เขาชอบ เพราะมีอีกอย่างหนึ่งที่เขาชื่นชอบและหลงรักคือ “ฟุตบอล” อูเลชอบที่จะดูฟุตบอลผ่านทีวีที่บ้านทุกคืน ทำให้ความหลงใหลในกีฬาชนิดนี้เพิ่มมากขึ้น พอตกเย็นของทุกวันเขาก็มักจะออกไปเล่นในสนามใกล้บ้าน มันใช้เวลาเพียงไม่นานที่ครอบครัวจะเริ่มสังเกตุและหันมาสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่ ทำให้เขาพัฒนาอย่างก้าวกระโดดเพียงเวลาไม่กี่ปี

การเริ่มเข้าวงการฟุตบอลครั้งแรก

อูเลเริ่มฉายแววนักเตะด้วยวัยเพียง 8 ปี ด้วยการเข้าร่วมสโมสร Clausenengen ซึ่งเป็นสโมสรเล็กๆประจำเมือง ขึ้นชื่อในเรื่องการปั้นนักเตะดาวรุ่งหน้าใหม่ แต่เพียงเข้ามาไม่กี่วันเขาก็เริ่มโดนดูถูกว่าจะไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพ เพราะขนาดตัวของเขาที่เล็กกว่าคนอื่น กระทั่งเวลาผ่านไปหลายปีเขาเริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจัง เพิ่มน้ำหนักตัวขึ้นเรื่อยๆจนลบคำสบประมาทได้สำเร็จ หลังจากนั้นเขาก็ได้เริ่มเล่นเป็นอาชีพอย่างจริงจัง ในปี จนกระทั่งได้มาเล่นให้กับยูไนเต็ดจนทำ 18 คะแนนในพรีเมี่ยร์ลีก แถมยังถูกตั้งฉายาว่า “นักฆ่าหน้าเด็ก” อย่างไรก็ตามสมาชิกทีมมักจะจดจำเขาในฐานะ “ซูเปอร์ซับ” มากกว่า ในขณะที่เขาเล่นหักับทีมยูไนเต็ด อูเลก็อาศัยอยู่ใน Bramhall กับภรรยาสาวของเขา ซิลญ่า และมีลูกสุดน่ารักสามคน ได้แก่ โนอา คาลนา และเอไลจาห์


เปิดประวัติทีมชาติไทยยุคดรีมทีม

ชุดดรีมทีมเป็นชุดฟุตบอลทีมชาติไทยที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในอดีต ภายใต้การนำของ “บิ๊กหอย” ถือเป็นทีมฟุตบอลทีมชาติไทยได้แชมป์ซีเกม ที่ประเทศสิงค์โปร ในปี พ.ศ.2536 ถือว่าสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยภายในดรีมทีมประกอบไปด้วยนักฟุตบอลฝีมือดี มีชื่อเสียงมากมาย อย่างเช่น เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง (ซิโก้) ที่ปัจจุบันก็เป็นถึงอดีตผู้จัดการทีมฟิตบอลทีมชาติไทยเช่นกัน วันนี้จะพามาดูประวัตินักเตะดาวรุ่งที่ประสบความสำเร็จในชุดดรีมทีมกันว่ามีใครกันบ้าง

1.ดุสิต เฉลิมแสน

เป็นนักฟุตบอลถนัดซ้ายที่มีชื่อเสียงอย่างมากในดรีมทีม เป็นถึงผู้เล่นไทยคนแรกที่ได้เข้าไปเลนใน I-League ของประเทศอินเดีย สถิติลงเล่นให้ทีมชาติ 124 เกม ทำประตูไปได้ทั้งหมด 14 ปัจจุบันนี้เป็นหัวหน้าฝึกสอนของสโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าส

2.เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง

ทุกคนรู้จักกับ “ซิโก้” คนนี้กันดี ว่าเมื่อเขาลงสนามจะมีความบ้าพลัง และความว่องไวแค่ไหน ประวัติการเล่นให้กับนอกบ้านมากมาย และสุดท้ายกลับมาเล่นให้ทีมชาติไทยในชุดดรีมทีม ในฐานะกองหน้า ถือว่าเป็นผู้เล่นที่เก่งและประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง ได้รับรางวัลมากมายไม่ว่าจะเป็นในฐานะนักเตะ และผู้จัดการทีม ปัจจุบันนี้ซิโก้ได้ดำรงตำแหน่งเป็นเป็นผู้จัดการทีมการท่าเรือ

3.ธชตวัน ศรีปาน

หรือที่เพื่อนๆเรียกกันว่า “แบน” มีความโดดเด่นตรงนี่เป็นคนใจเย็น ทำให้หลายคนชื่นชอบบุคลิกของเขาอย่างมาก โดยมีตำแหน่งเป็นกองกลางของทีมชาติไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 – 2551 ที่เคยยิงไปได้ 19 ประตู จากทั้งหมด 110 นัด (จากเดิมคือ 145 นัด) ก่อนหน้านี้ได้เล่นกับให้บีอีซี เทโรศาสน ในช่วงปี พ.ศ. 2550 – 2552 โดยในนัดสุดท้ายเจอกับนิวซีแลนด์ที่พาคว้าชัยไปด้วย 3 – 1 โดย 1 ใน 3 ประตูเป็นของตะวันนั่นเอง ปัจจุบันนี้ดำรงตำแหน่งเป็นโค้ชผู้ฝึกสอนของสโมสรฟุตบอลสุพรรณบุรี

ประวัติผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ

นายวนัสธนา สัจจกุล หรือที่ในวงการรู้จักกันดีในชื่อ “บิ๊กหอย” เขาคนนี้เป็นที่รู้จักกันดีในฐานอดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ที่ได้เป็นผู้ดูแลจัดการฟิตบอล “ดรีมทีม” เกิดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486 เริ่มศึกษาเล่าเรียนที่ “โรงเรียนสตรีวรนาถ” จากนั้นจึงเข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมปลายที่ “โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย” เมื่อจบการศึกษาจึงเดินทางไปเรียนต่อที่ สถานบันเทคโนโลยีมาปัว ที่ประเทศปิลิบปินส์ ได้มีโอกาสลงเล่นเป็นนักเตะของมหาวิทยาลัย จนได้ติดทีมชาติฟิลิบปินส์ และเป็นคนที่มีชื่อเสียงอย่างมากในฐานะที่ส้รางฟุตบอลทีมชาติไทยดรีมทีมอย่างที่เรารู้กันดี